Service
ทางสถานสงเคราะห์ได้ให้ความช่วยเหลือด้านปัจจัยสี่ แก่เด็กพิการโดยได้รับการสนับสนุนจากทางรัฐบาล และเอกชน รวมทั้งผู้มีใจเอื้อเฟื้อแก่เด็กพิการผู้ด้อยโอกาส โดยจัดที่พักอาศัย เสื้อผ้า อาหารที่เหมาะสม และถูกสุขลักษณะให้ มีการรักษาพยาบาลเมื่อยามเจ็บป่วย รวมทั้งการสร้างภูมิคุ้มกันต่าง ๆ โดยจะมีห้องพยาบาล มีพยาบาลอยู่ดูแลช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง และหากมีอาการเจ็บป่วยมากก็จะส่งโรงพยาบาลให้แพทย์ดูแลรักษาตามอาการต่อไป
2.การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์
ทางสถานสงเคราะห์ได้ให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ แก่เด็กพิการโดยแพทย์จากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ จัดให้มีการทำกายภาพบำบัด โดยนักกายภาพบำบัด นักกระตุ้นพัฒนาการ ทำการกายภาพบำบัดและฟื้นฟูสมรรถภาพของเด็กพิการ มีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อพัฒนาและส่งเสริมสุขภาพ ตลอดจนการนำพบแพทย์ เพื่อปรับสภาพร่างกายและการจัดหากายอุปกรณ์ต่าง ๆ การฝึกหัดให้ใช้อวัยวะที่เหลืออยู่ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด เพื่อให้เด็กพิการสามารถพึ่งพาตนเองได้ และป้องกันความพิการซ้ำซ้อนแก่เด็กพิการที่รับการสงเคราะห์
3.การให้ความรู้ด้านการศึกษา การฝึกอาชีพ การหางานทำและสู่สังคม
ทางสถานสงเคราะห์จัดให้มีการสร้างเสริมพัฒนาการแก่เด็กพิการและให้การศึกษาแก่เด็กพิการทั้งสายสามัญและสายอาชีพตามความสามารถของเด็ก เพื่อให้เด็กพิการได้มีความรู้ สามารถอ่านออกเขียนได้ เป็นพื้นฐานไปสู่การศึกษาที่สูงขึ้น หรือการประกอบอาชีพ สถานสงเคราะห์ได้จัดตั้งโรงเรียนขึ้นภายใน "โรงเรียนประชาบดี" จัดการเรียนการสอนตั้งแต่อนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ 6 นอกจากนั้นยังสนับสนุนให้เด็กพิการที่มีความพร้อมออกไปศึกษาภายนอกในลักษณะเรียนร่วมกับเด็กปกติ หรือเรียนในโรงเรียนเฉพาะทาง เช่น โรงเรียนสอนคนตาบอด โรงเรียนโสตศึกษา และโรงเรียนศึกษาพิเศษต่าง ๆ
สำหรับการฝึกอาชีพ จะคัดเลือกเด็กพิการในความอุปการะเข้ารับการฝึกอาชีพที่เหมาะสมกับความพิการ ทั้งการฝึกอาชีพภายในสถานสงเคราะห์ และการฝึกอาชีพภายนอกสถานสงเคราะห์ ณ ศูนย์ฟื้นฟูอาชีพคนพิการต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้เด็กพิการได้มีทักษะวิชาชีพนำไปประกอบวิชาชีพ มีรายได้เลี้ยงตนเองต่อไป
มีการติดต่อจัดหางานแก่เด็กพิการที่ผ่านการฝึกอาชีพและมีความพร้อม เพื่อให้เด็กพิการได้เข้าสู่สังคม มีอาชีพเลี้ยงตนเองตามความเหมาะสมต่อไป
4.การให้การอบรมศีลธรรม จริยธรรม และนันทนาการ
ทางสถานสงเคราะห์จะจัดเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลและใกล้ชิดเด็ก หรือวิทยากรจากภายนอกจะแนะนำ อบรม สั่งสอนเด็กเพื่อให้เด็กพิการเป็นคนดี มีจิตใจเมตตาอ่อนโยน ละอายและเกรงกลัวต่อบาป อันจะเป็นพื้นฐานที่จะเข้าสู่สังคมได้อย่างปกติสุข รวมทั้งการจัดกิจกรรมนันทนาการต่างๆ เพื่อให้เด็กได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลิน มีสุขภาพกายและจิตใจที่ดี มีทักษะและประสบการณ์ ทั้งในด้านศิลปะการแสดงออก ดนตรีและกีฬา
5.การให้ความรัก ความอบอุ่น คุ้มครองสวัสดิภาพและการพัฒนาแก้ไขปัญหาต่างๆ
ทางสถานสงเคราะห์จะจัดให้มีเจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลและเอาใจใส่ให้ความรัก และความอบอุ่นแก่เด็กพิการอย่างใกล้ชิด เปรียบดั่งญาติสนิท และคอยแนะนำช่วยเหลือเมื่อมีปัญหาต่าง ๆ ในรายที่มีปัญหามากทั้งในด้านพฤติกรรม อารมณ์ หรือจิตใจ ก็จะมีนักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา เข้ามาช่วยแนะนำแก้ไขตามหลักวิชาการ เพื่อให้เด็กพิการมีพัฒนาการที่ดีและเหมาะสมทั้ง ด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์สังคม และจิตใจ